Abstract
พบสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารไทย ทั้งประเภทอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส ของขบเคี้ยว หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหารไทย ที่จะสามารถสร้างมูลค่าตอบแทนการขยายตลาดหรือลงทุนในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างมีนัยสำคัญ
โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการสำรวจเมื่อ ปี พ.ศ. 2554 ของ CNN ที่ให้แกงมัสมั่นไก่ของไทยเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มรู้จักในรสชาติอาหารไทยมากขึ้น จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา กอปรกับโครงสร้างครอบครัวของชาวญี่ปุ่นที่นิยมการเป็นโสดกันมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน และเมื่อกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารของญี่ปุ่นได้ประยุกต์ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยใช้รสชาติและเอกลักษณ์ของอาหารไทยเป็นจุดขาย เช่น Nissin Cup Noodle ซึ่งได้พัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งของไทยจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถสร้างยอดขายได้เหนือความคาดหมาย กระทั่ง เกิดภาวะขาดแคลนผลิตภัณฑ์ Cup Noodle รสต้มยำกุ้งในตลาด
จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของไทยจะใช้โอกาสและช่วงเวลานี้ ศึกษาและกำหนดทิศทางการขยายตลาดหรือการลงทุนไปสู่ประเทศญี่ปุ่น
………………………………………………………………….
ซูชิ ราเม็ง สุกี้ เทมปุระ คือ ชื่ออาหารที่แพร่หลายจากต้นทางในประเทศญี่ปุ่น และมีประเทศไทยงเป็นปลายทางเส้นหนึ่งในตลาดต่างประเทศของอาหารญี่ปุ่น ที่เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องได้เคยชิมและเคยใช้บริการในร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีเปิดบริการทั่วทุกภูมิภาคของไทย ทั้งโดยผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น และผู้ประกอบการสัญชาติไทย
และเชื่อว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อย ที่คิดว่าอาหารไทยจะไม่สามารถไปทดแทนอาหารญี่ปุ่นให้คนญี่ปุ่นได้ติดใจในรสชาติ ได้เหมือนกับที่อาหารญี่ปุ่นสามารถเข้ามาเสริมสีสันในแต่ละมื้อให้แก่คนไทย ด้วยอาหารไทยส่วนใหญ่จะมีรสชาติที่จัดจ้าน เผ็ดร้อน ขณะที่คนญี่ปุ่นจะมีความพอใจในความเป็นธรรมชาติจากรสชาติของวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงเป็นหลัก
กว่า 10 ปี ไปปักธงอาหารไทยในญี่ปุ่น
ในความเป็นจริงแล้ว อาหารไทยได้แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในด้านจำนวน และระยะเวลา ไม่น้อยกว่าการไปแพร่หลายในประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือตะวันออกกลาง ด้วยจำนวนร้านอาหารไทยกว่า 1,200 ร้าน ที่กระจายตัวทั่วประเทศญี่ปุ่น
หากแต่กระแสและความนิยมในอาหารไทยของคนญี่ปุ่น จะมีช่วงจังหวะความนิยมที่ไม่แน่นอนเหมือนในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่ประเทศต่างๆ จะมีความนิยมอาหารไทยอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ดังนั้น ข้อมูล ข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ เกี่ยวกับร้านอาหารหรืออุตสาหกรรมอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่นจึงไม่เป็นที่ปรากฎแก่คนไทยมากนัก
มัสมั่นไก่ ดาวรุ่งบุกเบิกอาหารไทยในญี่ปุ่น
ในปี พ.ศ. 2554 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง CNN สำนักข่าวชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้แกงมัสมั่นไก่ของไทย เป็นรายการอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก และส่งผลให้แกงมัสมั่นไก่ รวมถึง รายการอาหารระดับแนวหน้าของไทยอีกจำนวนมาก เช่น ผัดกระเพราไก่ ผัดไทย หรือก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายของชาวต่างชาติมากขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น ที่ Seven & I Food Systems ผู้บริหารร้านอาหาร Denny’s ที่มีสาขาในญี่ปุ่นกว่า 900 สาขา ได้เลือกและจัดกิจกรรมภายในร้าน ด้วยการนำแกงมัสมั่นไก่ และผัดกระเพราไก่ของไทย ไปเป็นส่วนหนึ่งในรายการอาหารประจำร้าน และได้รับผลตอบรับจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดีเช่นกัน
ปรากฎการณ์ดังกล่าว จึงเป็นแรงส่งให้อาหารไทยมีบทบาทในด้านการเป็นอาหารทางเลือกใหม่สำหรับชาวญี่ปุ่น ทั้งในรูปแบบอาหารปิ่นโต (เช่นเดียวกับอาหารปรุงสำเร็จในร้านสะดวกซื้อของประเทศไทย) ที่ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ต่างๆ ของญี่ปุ่น ต่างนำไปวางจำหน่ายแก่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ไม่นับรวมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปและเครื่องปรุงอาหารไทย ที่สามารถเพิ่มพื้นที่การวางจำหน่ายบนชั้น (Shelf) ของ Modern Trade ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้อย่างเหนือความคาดหมาย ด้วยสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารประเภท Ethnic
โครงสร้างครอบครัวตัวคนเดียว
อีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้อาหารไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คือ โครงสร้างครอบครัวของชาวญี่ปุ่นในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ชีวิตโสดของหนุ่มสาวรุ่นใหม่กันมากขึ้น อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งผลให้ทุกครอบครัวหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปที่รับประทานคนเดียวได้มากขึ้น
จากการศึกษาผลการดำเนินงานของ Inaba Food ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแกงเขียวหวานปลาทูน่ากระป๋อง ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2554 ที่มีขนาด และราคา เหมาะสมกับ Life Style ของชาวญี่ปุ่นในปัจจุบัน จึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปอื่นๆ ในเวลาต่อมา
และที่สะท้อนภาพความนิยมอาหารไทยของชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี คือ กลุ่ม Nissin ผู้ผลิตบะหมี่กี่งสำเร็จรูปรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งได้พัฒนาผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งของไทยมาวางจำหน่าย และสามารถสร้างยอดขายได้อย่างมหาศาลภายในระยะเวลาไม่นาน กระทั่ง เกิดภาวะขาดแคลนผลิตภัณฑ์ Cup Noodle รสต้มยำกุ้งในตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเมืองโตเกียว
ข้อเสนอแนะ
ดังได้กล่าวถึงในข้างต้น จะพบว่าตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารไทย ทั้งอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง ของขบเคี้ยว หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดและการลงทุนไปยังประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าอดีต โดยมีข้อเสนอแนะที่ผู้ประกอบการควรศึกษาและดำเนินการ คือ
1. ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้คงรูปแบบ รสชาติ และเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทย ที่มีขนาดและราคาที่เหมาะสมกับ Life Style ปัจจุบันของชาวญี่ปุ่น ซึ่งครองตัวเป็นโสดมากขึ้น รวมถึง การให้ความสำคัญกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารที่จะจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
2. รวมกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อสร้างกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคอาหารไทยในญี่ปุ่น ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในประเทศไทย และญี่ปุ่น โดยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว คือ ในช่วงฤดูร้อนหรือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ที่ชาวญี่ปุ่นจะนิยมบริโภคอาหารที่มีรสชาติที่จัดจ้านกว่าปกติ
แหล่งที่มา : อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร